วันอังคารที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2559

ทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์
          
           คณิตศาสตร์เป็นวิชาที่ว่าด้วยเหตุผล  กระบวนการคิด  และการแก้ปัญหา  คณิตศาสตร์จึงเป็นวิชาที่ช่วยเสริมสร้างให้นักเรียนเป็นคนมีเหตุผล  มีความคิดอย่างมีวิจารณญาณและเป็นระบบ ตลอดจนมีทักษะการแก้ปัญหา  ทำให้สามารถคิดวิเคราะห์การแก้ปัญหาและสถานการณ์ได้อย่างถี่ถ้วนรอบคอบ  สามารถคาดการณ์  วางแผน  ตัดสินใจและแก้ปัญหาได้อย่างเหมาะสม  ซึ่งเป็นประโยชน์ในชีวิตประจำวัน  ยิ่งกว่านั้นคณิตศาสตร์ยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการศึกษาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีตลอดจนศาสตร์อื่นๆ  ทำให้มีการพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอย่างมากมายในทุกวันนี้
           ทักษะ/กระบวนการทางคณิตศาสตร์เป็นสาระหนึ่งในกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เนื่องจากนักการศึกษาคณิตศาสตร์ตระหนักถึงความสำคัญและจำเป็น  ไม่เพียงแต่ประเทศไทยเท่านั้นที่หันมาใส่ใจส่งเสริมทักษะ/กระบวนการทางคณิตศาสตร์ในทุกระดับชั้นของหลักสูตรคณิตศาสตร์  ยังมีประเทศอื่นๆ อีกทั่วโลกที่สนใจส่งเสริมทักษะ/กระบวนการทางคณิตศาสตร์ด้วยเช่นกัน  เช่น  ออสเตรเลีย  สิงคโปร์  และสหรัฐอเมริกา  สภาครูคณิตศาสตร์ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นองค์กรสำคัญที่มีบทบาทอย่างมากต่อการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ระดับโรงเรียนในสหรัฐอเมริกาและทั่วโลก  ได้เสนอหนังสือมาตรฐานหลักสูตรและการประเมินผลคณิตศาสตร์ระดับโรงเรียน   ในปี ..1989 และหนังสือหลักการและมาตรฐานสำหรับคณิตศาสตร์ระดับโรงเรียน ในปี ..2000  ว่าด้วยมาตรฐานทางด้านทักษะ/กระบวนการทางคณิตศาสตร์  ที่ควรส่งเสริมให้นักเรียนระดับโรงเรียนได้เรียนรู้ฝึกฝนทักษะและพัฒนาให้ดีขึ้น ประกอบด้วยการแก้ปัญหา  กรให้เหตุผลและการพิสูจน์  การสื่อสาร  การเชื่อมโยงและการนำเสนอ  ซึ่งสิ่งเหล่านี้ส่งผลให้นักการศึกษาทั่วโลกรวมทั้งนักการศึกษาของไทยหันมาสนใจศึกษาเกี่ยวกับ ทักษะ/กระบวนการทางคณิตศาสตร์  มากยิ่งขั้น

แหล่งเรียนรู้เพิ่มเติม



คณิตศาสตร์ ทักษะทางคณิตศาสตร์ ม.3


ความหมายของการให้เหตุผลทางคณิตศาสตร์
การให้เหตุผลทางคณิตศาสตร์  หมายถึง  กระบวนการการคิดทางคณิตศาสตร์ที่ต้องอาศัยการคิดวิเคราะห์และ /  หรือความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ในการรวบรวมข้อเท็จจริง/ข้อความ/แนวคิด/สถานการณ์ทางคณิตศาสตร์ต่างๆ แจกแจงความสัมพันธ์ หรือการเชื่อมโยง  เพื่อทำให้เกิดข้อเท็จจริงหรือสถานการณ์ใหม่
รูปแบบของการให้เหตุผล
1. การให้เหตุผลแบบอุปนัย 
การให้เหตุผลแบบอุปนัย  เป็นกระบวนการที่ใช้การสังเกตหรือการทดลองหลายๆครั้งแล้วรวบรวมข้อมูลเพื่อหาแบบรูปที่จะนำไปสู่ข้อสรุปซึ่งเชื่อว่า น่าจะถูกต้อง น่าจะเป็นจริง  มีความเป็นไปได้มากที่สุดแต่ยังไม่ได้พิสูจน์ว่าเป็นจริงและยังไม่พบข้อขัดแย้ง เรียกข้อสรุปนั้นว่า ข้อความคาดการณ์
ตัวอย่าง  แก้วตาสังเกตว่า ในวันที่โรงเรียนเปิด คุณครูนวลศรีซึ่งมีบ้านอยู่ท้ายซอย จะขับรถผ่านบ้านของแก้วตาไปโรงเรียนทุกเช้าประมาณ  7.00 น.  แต่วันนี้สายแล้ว  แก้วตายังไม่เห็นคุณครูนวลศรีขับรถไปโรงเรียน  แก้วตาจึงสรุปเป็นข้อความคาดการณ์ว่า วันนี้เป็นวันที่โรงเรียนหยุด
พิสูจน์ทางคณิตศาสตร์  ซึ่งถ้าแสดงหรือพิสูจน์ได้ว่า  ข้อความคาดการณ์เป็นจริงในกรณีทั่วไป  ข้อความคาดการณ์นั้นจะเป็น  ทฤษฎีบท  ในทางตรงกันข้าม  ถ้าสามารถยกตัวอย่างค้าน ได้แม้เพียงกรณีเดียว  ข้อความคาดการณ์นั้นจะเป็นเท็จทันที

1.  การให้เหตุผลแบบนิรนัย
การให้เหตุผลแบบนิรนัย  เป็นกระบวนการที่ยกเอาสิ่งที่รู้ว่าเป็นจริงหรือยอมรับว่าเป็นจริงโดยไม่ต้องพิสูจน์  แล้วใช้เหตุผลตามหลักตรรกศาสตร์อ้างจากสิ่งที่รู้ว่าเป็นจริงนั้นเพื่อนำไปสู่ข้อสรุปหรือผลสรุปที่เพิ่มเติมขึ้นมาใหม่
การให้เหตุผลแบบนิรนัย  ประกอบด้วยส่วนสำคัญ  2  ส่วน  คือ 
1) เหตุหรือสมมติฐาน  ซึ่งหมายถึง  สิ่งที่เป็นจริงหรือยอมรับว่าเป็นจริงโดยไม่ต้อง
พิสูจน์  ได้แก่  คำอนิยาม  บทนิยาม  สัจพจน์  ทฤษฎีบทที่พิสูจน์แล้ว  กฎหรือสมบัติต่างๆ
2)  ผลหรือผลสรุป  ซึ่งหมายถึง  ข้อสรุปที่ได้จากเหตุหรือสมมติฐาน
ในทางคณิตศาสตร์  การให้เหตุผลแบบนิรนัย  ประกอบด้วย
     1.คำอนิยาม  หมายถึง  คำที่เราไม่ให้ความหมายหรือให้ความหมายไม่ได้  แต่เข้าใจ
     ความหมายได้  โดยอาศัยการรับรู้จากประสบการณ์  ความคุ้นเคย  หรือสมบัติที่เข้าใจตรงกันเช่น  กำหนดให้คำว่า  จุด  เส้น  และระนาบ  เป็นคำอนิยามในเรขาคณิตแบบยุคลิด
     2.บทนิยาม  หมายถึง  ข้อความแสดงความหมายหรือคำจำกัดความของคำที่
      ต้องการ  โดยอาศัยคำอนิยาม  บทนิยามหรือสมบัติต่างๆที่เคยทราบมาแล้ว  เช่น  กำหนดบทนิยามว่า  รูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส คือ  รูปที่มีด้านทุกด้านยาวเท่ากัน  และมีมุมทุกมุมเป็นมุมฉาก
     3.สัจพจน์  หมายถึง  ข้อความที่เรายอมรับหรือตกลงว่าเป็นจริงโดยไม่ต้อง
     พิสูจน์  เช่น  กำหนดให้ข้อความว่า  ระหว่างจุดสองจุดใดๆจะมีส่วนของเส้นตรงเชื่อม  เป็นสัจพจน์ในเรขาคณิตแบบยุคลิด
     4.ทฤษฎีบท  หมายถึง  ข้อความที่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นจริงซึ่งในการพิสูจน์อาจ
     ใช้บทนิยาม  สัจพจน์  หรือทฤษฎีบทอื่นๆที่ได้พิสูจน์ไว้ก่อนแล้ว  มาอ้างอิงในการพิสูจน์  ข้อความที่เป็นทฤษฎีบทควรเป็นข้อความที่สำคัญ  มักนำไปอ้างอิงในการพิสูจน์ข้อความอื่นๆหรือนำไปใช้แก้ปัญหาต่อไป





                                                                                                   
ความหมายของปัญหาและการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์
                                                                            
       ปัญหา หมายถึง สถานการณ์ที่เผชิญอยู่และต้องการค้นหาคำตอบ โดยที่ยังไม่รู้วิธีการหรือขั้นตอนที่จะได้คำตอบของสถานการณ์นั้นในทันที
       ปัญหาทางคณิตศาสตร์ หมายถึง สถานการณ์ที่เกี่ยวกับคณิตศาสตร์ซึ่งเผชิญอยู่และต้องการค้นหาคำตอบ โดยที่ยังไม่รู้วิธีการหรือขั้นตอนที่ได้คำตอบของสถานการณ์ นั้นในทันที และการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ หมายถึง กระบวนการในการประยุกต์ความรู้ทางคณิตศาสตร์ ขั้นตอน /กระบวนการแก้ปัญหา ยุทธวิธีแก้ปัญหา และประสบการณ์ที่มีอยู่ไปใช้ในการค้นหาคำตอบของปัญหาทางคณิตศาสตร์
กระบวนการแก้ปัญหา
       กระบวนการแก้ปัญหาที่ยอมรับและนำมาใช้กันอย่างแพร่หลาย คือ กรระบวนการแก้ปัญหาตามแนวคิดของโพลยา (Polya) ซึ่งประกอบด้วยขั้นตอนสำคัญ 4 ขั้นตอน ดังนี้
        ขั้นที่ 1 ขั้นทำความเข้าใจปัญหา
        ขั้นที่ 2 ขั้นวางแผนแก้ปัญหา
        ขั้นที่ 3 ขั้นดำเนินการตามแผน
        ขั้นที่ 4 ขั้นตรวจสอบผล
ขั้นที่ 1 ขั้นทำความเข้าใจปัญหา
       ในขั้นตอนนี้ข้องทำความเข้าใจปัญหาและระบุส่วนสำคัญของปัญหา  ซึ่งได้แก่  ตัวไม่รู้ค่า  ข้อมูลและเงื่อนไข  อาจใช้วิธีต่างๆช่วยในการทำความเข้าใจปัญหา เช่นการเขียนรูปการเขียนแผนภูมิ  หรือการเขียนสาระปัญหาด้วยถ้อยคำของตนเอง
ขั้นที่ 2 ขั้นวางแผนแก้ปัญหา
       ขั้นตอนนี้เป็นการค้นหาความเชื่อมโยงหรือความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูลและตัวไม่รู้ค่าแล้วนำความสัมพันธ์นั้นมาผสมผสานกับประสบการณ์ในการแก้ปัญหา  เพื่อกำหนดแนวทางหรือแผนในการแก้ปัญหา
ขั้นที่ 3 ขั้นดำเนินการตามแผน
       ขั้นตอนนี้ต้องการให้นักเรียนลงมือปฏิบัติตามแนวทางหรือแผนที่วางไว้  โดยเริ่มจากการตรวจสอบความเป็นไปได้ของแผน เพิ่มเติมรายละเอียดต่างๆของแผนให้ชัดเจน แล้วลงมือปฏิบัติจนกระทั่งสามารถหาคำตอบได้
ขั้นที่ 4 ขั้นตรวจสอบผล
       ขั้นตอนนี้ต้องการให้มองย้อนกกลับไปยังคำตอบที่ได้มา  โดยเริ่มจากการตรวจสอบความถูกต้อง  ความสมเหตุสมผลของคำตอบและยุทธวิธีแก้ปัญหาที่ใช้  แล้วพิจารณาว่ามีคำตอบหรือยุทธวิธีแก้ปัญหาอย่างอื่นอีกหรือไม่

           วิลสัน (Wilson) และคณะ  จึงได้เสนอแนะกรอบแนวคิดเกี่ยวกับกระบวนการแก้ปัญหาที่แสดงความเป็นพลวัตร  มีลำดับไม่ตายตัว  สามารถวนไปวนมาได้  ดังแผนภูมิ    


กระบวนการแก้ปัญหาที่เป็นพลวัตตามแนวคิดของวิลสันและคณะ
ยุทธวิธีแก้ปัญหา
       ยุทธวิธีแก้ปัญหาเป็นเครื่องมือสำคัญที่สามารถนำมาใช้ในการแก้ปัญหาได้ดีที่พบบ่อยในคณิตศาสตร์ มีดังนี้
การค้นหาแบบรูป
  การสร้างตาราง
  การเขียนภาพหรือแผนภาพ
  การแจงกรณีที่เป็นไปได้ทั้งหมด
  การคาดเดาและตรวจสอบ
  การทำงานแบบย้อนกลับ
  การเขียนสมการ
  การเปลี่ยนมุมมอง
  การแบ่งเป็นปัญหาย่อย
  การให้เหตุผลทางตรรกศาสตร์
  การให้เหตุผลทางอ้อม
  เชื่อมโยงกับปัญหาที่คุ้นเคย
  การวาดภาพ
  การสร้างแบบจำลอง
ลงมือแก้ปัญหา


แหล่งเรียนรู้เพิ่มเติม



แหล่งที่มา


สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. (2550). ทักษะ/กระบวนการทาง
           คณิตศาสตร์.  กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว.